ขนมญี่ปุ่นใน Tokyo Serendipity
หยิบหนังเรื่อง Tokyo Serendipity มาดูด้วยเหตุผลข้อเดียวคือ ริวเฮ มัตสึดะ
แปลกใจนิดหน่อยที่ริวเฮเล่นหนังธรรมดา ๆ แบบนี้ก็เป็นด้วย (หมายถึงเป็นเรื่องของคนธรรมดา ๆ ในยุคปัจจุบัน ไม่มีปืน ไม่มีเรื่องเหนือธรรมชาติ ไม่โหด ไม่หดหู่)
ชื่อหนังในภาษาญี่ปุ่นคือ 恋する マドリ แปลเป็นไทยว่าอะไรก็ไม่รู้ (ไม่กล้าแปล) แต่ว่า...
恋する (koisuru) แปลว่า to fall in love with, to love
ส่วน マドリ น่าจะมาจาก まどり (madori) แปลว่า plan of a house, arrangement of rooms
ถึงชื่อเรื่องภาษาญี่ปุ่น กับชื่อภาษาอังกฤษจะไม่เหมือนกัน แต่ก็เป็นชื่อที่เหมาะกับหนังเรื่องนี้ทั้งสองชื่ออย่างไม่น่าเชื่อ
Koisuru Madori อาจจะไม่ใช่หนังรักจี๊ดจ๊าดโดนใจอะไร แต่ว่ามันมีอะไรให้คิดถึงแยะเหมือนกันนะ (ช่องลับในบ้าน เก้าอี้ที่ยิ้มได้ บริษัทช่วยขนย้าย ฯลฯ)
ลองให้พี่สาวคนหนึ่งยืมแผ่นไปดู แกบอกว่าดูแล้วมันได้เห็นอะไรที่เป็นญี่ปุ่น ๆ หลายอย่างดีเหมือนกัน และที่พี่สาวติดใจมากเป็นพิเศษคือขนมญี่ปุ่นในเรื่องซึ่งดูเหมือนจะเป็นขนมญี่ปุ่นเจ้าอร่อย
แปลกดีที่ตอนดูไม่ได้ติดใจเรื่องนี้เท่าไหร่ และคงจะไม่ได้สนใจไปแล้วถ้าพี่สาวคนนั้นจะไม่ได้อยากหาขนมแบบนี้มาลองชิมดูบ้าง
ขนมที่ว่านี้จะโผล่มาประมาณ 3 ฉากด้วยกัน ทุกฉากขนมจะมาคู่กับน้ำชา
เรื่องหาชื่อขนม ไม่ยากอย่างที่คิด เพราะถึงในเรื่องจะไม่ได้บอกไว้ แต่เค้าบอกว่าเป็นร้านใน Kita Shinagawa ซึ่งหาไม่นานก็เจอว่ามันเป็นขนมชื่อโอคินะโมจิ 翁餅(おきなもち)
มีเว็บไซต์ที่ลงรูปร้านและรูปขนมชัด ๆ ให้ดูด้วย (ถ้าอ่านออกก็ดีน่ะสิ)
แสดงว่าหนังก็ไปถ่ายที่ร้านจริง ๆ ด้วยนะ (ดูจากมุมกล้องแล้ว ร้านเล็กใช้ได้เลย)
คำว่า โอคินะ แปลว่า ชายแก่ ถ้าอย่างนั้น ขนมนี่คือขนมโมจิชายแก่อย่างนั้นหรือ?
ด้วยความอยากรู้เลยถามเพื่อนคนไทยที่อยู่ญี่ปุ่น เพื่อนไม่ได้อธิบายความหมาย แต่บอกว่าขนมที่ว่าเป็นขนมของร้านมาสึโอเคน ซึ่งมีประวัติยาวนาน คนญี่ปุ่นก็ไม่รู้จัก เพราะเป็นชื่อเฉพาะ คือเป็นชื่อขนมของร้านนี้
และก็คงจะจริงที่ว่าคนญี่ปุ่นไม่รู้จัก เพราะอุตส่าห์เอาชื่อขนมไปถามเซนเซซึ่งเป็นหนุ่มโตเกียวแท้ ๆ เซนเซก็ไม่รู้จักขนมที่ว่านี่จริง ๆ ด้วย (และกลายเป็นการทำให้เซนเซต้องเสีย self อีกต่างหาก หน้านิ่วคิ้วขมวดไปเลย - ごめんなさいね (。_。))
สรุปว่างานนี้เลยไม่ได้รู้เรื่องความหมายของชื่อขนม แต่ที่แน่ ๆ คือรู้แล้วว่า ถ้าอยากกินโอคินะโมจิต้องไปร้านมาสึโอเคน ที่ คิตะชินากาวะ สถานเดียวเท่านั้น -_-'
ป.ล. ในหนังเรื่องนี้ยังมีตัวละครอีกตัวหนึ่งที่จะโผล่มาพร้อมนางเอกบ่อย ๆ เห็นทีไร นึกถึงพี่บอย ตรัย ทู้กทีสิน่า(^o^)
แปลกใจนิดหน่อยที่ริวเฮเล่นหนังธรรมดา ๆ แบบนี้ก็เป็นด้วย (หมายถึงเป็นเรื่องของคนธรรมดา ๆ ในยุคปัจจุบัน ไม่มีปืน ไม่มีเรื่องเหนือธรรมชาติ ไม่โหด ไม่หดหู่)
ชื่อหนังในภาษาญี่ปุ่นคือ 恋する マドリ แปลเป็นไทยว่าอะไรก็ไม่รู้ (ไม่กล้าแปล) แต่ว่า...
恋する (koisuru) แปลว่า to fall in love with, to love
ส่วน マドリ น่าจะมาจาก まどり (madori) แปลว่า plan of a house, arrangement of rooms
ถึงชื่อเรื่องภาษาญี่ปุ่น กับชื่อภาษาอังกฤษจะไม่เหมือนกัน แต่ก็เป็นชื่อที่เหมาะกับหนังเรื่องนี้ทั้งสองชื่ออย่างไม่น่าเชื่อ
Koisuru Madori อาจจะไม่ใช่หนังรักจี๊ดจ๊าดโดนใจอะไร แต่ว่ามันมีอะไรให้คิดถึงแยะเหมือนกันนะ (ช่องลับในบ้าน เก้าอี้ที่ยิ้มได้ บริษัทช่วยขนย้าย ฯลฯ)
ลองให้พี่สาวคนหนึ่งยืมแผ่นไปดู แกบอกว่าดูแล้วมันได้เห็นอะไรที่เป็นญี่ปุ่น ๆ หลายอย่างดีเหมือนกัน และที่พี่สาวติดใจมากเป็นพิเศษคือขนมญี่ปุ่นในเรื่องซึ่งดูเหมือนจะเป็นขนมญี่ปุ่นเจ้าอร่อย
แปลกดีที่ตอนดูไม่ได้ติดใจเรื่องนี้เท่าไหร่ และคงจะไม่ได้สนใจไปแล้วถ้าพี่สาวคนนั้นจะไม่ได้อยากหาขนมแบบนี้มาลองชิมดูบ้าง
ขนมที่ว่านี้จะโผล่มาประมาณ 3 ฉากด้วยกัน ทุกฉากขนมจะมาคู่กับน้ำชา
เรื่องหาชื่อขนม ไม่ยากอย่างที่คิด เพราะถึงในเรื่องจะไม่ได้บอกไว้ แต่เค้าบอกว่าเป็นร้านใน Kita Shinagawa ซึ่งหาไม่นานก็เจอว่ามันเป็นขนมชื่อโอคินะโมจิ 翁餅(おきなもち)
มีเว็บไซต์ที่ลงรูปร้านและรูปขนมชัด ๆ ให้ดูด้วย (ถ้าอ่านออกก็ดีน่ะสิ)
แสดงว่าหนังก็ไปถ่ายที่ร้านจริง ๆ ด้วยนะ (ดูจากมุมกล้องแล้ว ร้านเล็กใช้ได้เลย)
คำว่า โอคินะ แปลว่า ชายแก่ ถ้าอย่างนั้น ขนมนี่คือขนมโมจิชายแก่อย่างนั้นหรือ?
ด้วยความอยากรู้เลยถามเพื่อนคนไทยที่อยู่ญี่ปุ่น เพื่อนไม่ได้อธิบายความหมาย แต่บอกว่าขนมที่ว่าเป็นขนมของร้านมาสึโอเคน ซึ่งมีประวัติยาวนาน คนญี่ปุ่นก็ไม่รู้จัก เพราะเป็นชื่อเฉพาะ คือเป็นชื่อขนมของร้านนี้
และก็คงจะจริงที่ว่าคนญี่ปุ่นไม่รู้จัก เพราะอุตส่าห์เอาชื่อขนมไปถามเซนเซซึ่งเป็นหนุ่มโตเกียวแท้ ๆ เซนเซก็ไม่รู้จักขนมที่ว่านี่จริง ๆ ด้วย (และกลายเป็นการทำให้เซนเซต้องเสีย self อีกต่างหาก หน้านิ่วคิ้วขมวดไปเลย - ごめんなさいね (。_。))
สรุปว่างานนี้เลยไม่ได้รู้เรื่องความหมายของชื่อขนม แต่ที่แน่ ๆ คือรู้แล้วว่า ถ้าอยากกินโอคินะโมจิต้องไปร้านมาสึโอเคน ที่ คิตะชินากาวะ สถานเดียวเท่านั้น -_-'
ป.ล. ในหนังเรื่องนี้ยังมีตัวละครอีกตัวหนึ่งที่จะโผล่มาพร้อมนางเอกบ่อย ๆ เห็นทีไร นึกถึงพี่บอย ตรัย ทู้กทีสิน่า(^o^)
Comments