at love the series

September 23, 2012

at love the series

ไม่มีคำว่าไกลเกินไป สำหรับการไปดูคอนเสิร์ตศิลปินที่เราชอบจริง ๆ

ปกติเวลาชื่นชอบนักร้องคนไหน เราจะหาเรื่องไปฟังเค้าร้องเพลงแบบสด ๆ ให้ได้...จะว่าไปแล้ว แค่สุดสายรถไฟฟ้า BTS นี่ไม่เรียกว่าไกลหรอก (ไกลกว่านี้ก็เคยไปมาแล้ว^^)

'เต๋า คชา At Love the Series' ...ซีรี่ส์ in คอนเสิร์ต

คอนเสิร์ตนี้เป็นของเด็ก ๆ ที่เราเอาใจช่วยตอนประกวด AF8 คือเต๋า กับ คชา แล้วจะพลาดได้อย่างไร (แต่ตอนซื้อบัตรนี่บีบหัวใจสุด ๆ ตอนเปิดจองรอบที่สอง บัตรนั่งน่าจะหมดในนาทีแรกที่เปิดขายนั่นแหละ...โชคดีที่ฝีมือการจิ้มบัตรของเรายังไม่ตก^^)

ดูจากชื่อคงเดาได้ไม่ยากว่าคอนเสิร์ตนี้มีรูปแบบกึ่งละคร มีการแบ่งเป็นบทเป็นตอน เล่าถึงชีวิตคน 2 คนคือเต๋ากับคชาที่ได้มารู้จักกันตอนประกวด AF8 แล้วก็เป็นเพื่อนกัน ช่วยเหลือกัน อาจจะมีงอนกันบ้าง แกล้งกันบ้าง แต่ก็เป็นเพื่อนที่รักกันมาก...จบ โครงเรื่องมีอยู่เท่านี้

ซึ่งจะว่าไปตอนดู AF8 เราก็เคยรู้สึกเหมือนกำลังดูซีรี่ส์...เกาหลี อยู่เหมือนกันนะ ทั้ง ๆ ที่มันเป็นเรียลิตี้ สด ๆ ไม่มีสคริปต์นี่แหละ แต่ดูแล้วติดงอมแงมยิ่งกว่าละคร
ยิ่งถ้าตัดมาเฉพาะเต๋า-คชาแล้ว จะมีโมเม้นท์ชวนให้คนดูคิดถึงซีรี่ส์เยอะเชียว (ตัวอย่างในตำนานคือ Secret Garden เวอร์ชั่น AF8 Cr. rakowen Channel)

อ้อ! สิ่งที่เหมือนซีรี่ส์อีกอย่างคือ คนที่เคยดูจะรู้ว่าระหว่างคู่นี้จะมีประโยคเด็ดหรือคำฮิต ๆ เหมือนเวลาเราดูซีรี่ส์ด้วย ตัวอย่างที่คลาสสิกสุดก็คือคำว่า at love คำที่พวกเค้าเคยใช้เรียกกันขำ ๆ (แปลซื่อ ๆ ว่า 'ที่รัก') ที่กลายมาเป็นชื่อคอนเสิร์ตนี่แหละ ส่วนคำล่าสุดที่ได้รับการบัญญัติโดยเต๋า-คชาและมีคนใช้กันอย่างกว้างขวางก็น่าจะเป็นคำว่า ครีบปลา (ที่แปลซื่อ ๆ ว่า 'ฟิน' o_O) ตัวอย่างโมเม้นท์และคำพูดของเต๋า-คชาที่แฟน ๆ ประทับใจ

เอาล่ะ แม้ตอนอยู่ในบ้าน (หมายถึงบ้านเอเอฟ) จะเหมือนซีรี่ส์
แต่ถ้าจะมาแสดงซีรี่ส์กันบนเวที แล้วมีสคริปต์มันจะเวิร์กมั้ยนะ?

บอกตามตรงว่าตอนแรกแอบกลัวมันจะเป็นการแสดงที่ไม่เป็นธรรมชาติ แต่กลายเป็นว่าออกมาน่ารักและสนุกดี แม้แต่ตอนที่เป็นละครเต็มรูปแบบอย่างช่วง สถานีรักคอฟฟี่ปรินซ์ (ที่เอาผลงานละครเรื่องแรกของทั้งคู่มายำรวมกัน) ก็เล่นได้ดีทั้งคู่ ...ชอบการแสดงและใช้เสียงของคชาในช่วงนี้มาก (โดยเฉพาะรอบบ่าย) ...คิดว่าน้องน่าจะได้อะไรมาไม่น้อยเลยจากการเล่นซิตคอม :)

ปกติเคยเห็นแต่คนทำ OPV ให้คู่นี้ (OPV-Other People's Videos--เป็นมิวสิควิดีโอที่แฟน ๆ ทำให้โดยเลือกโมเม้นท์ที่ดูแล้วประทับใจมาตัดต่อและใส่เพลงประกอบ) แต่เราว่าคอนเสิร์ตคราวนี้มันฟินกว่าตรงที่พวกเขาเป็นคนเลือกเพลงกันเอง แล้วก็ร้องและแสดงประกอบเพลงให้เราดูเองเลย มีทั้งเพลงโปรดของแต่ละคน เพลงที่พวกเค้าเคยร้อง (เล่น ๆ ) ด้วยกัน เพลงที่เคยใช้ประกวด เพลงที่เอามาใช้เล่าเรื่องราว (แถมแต่ละเพลงก็เนื้อหาชง ช่วยกระตุ้นต่อมจินตนาการคนดูทั้งนั้น) จะว่าไปการทำคอนเสิร์ตกึ่งละครแบบนี้ มันก็น้อง ๆ musical เลยนะ โดยเฉพาะเพลง 'จะเอายังไง' หรือ 'เธอคือใคร' นี่ัจัดว่ามีความเป็นละครเพลงสูงมากจริง ๆ

เกือบทุกเพลงในคอนเสิร์ตนี้เป็นเพลงที่ร้องด้วยกันสองคน (นี่มันคอนเสิร์ตของศิลปินคู่ชัด ๆ) เพิ่งรู้สึกจริงจังก็คราวนี้ว่าเต๋ากับคชาเสียงเข้ากันมาก ยิ่งเพลง เธอไม่เป็นไรแต่ฉันเป็น กับ เพราะเธอคนเดียว ที่รอบบ่ายร้องด้วยกันทั้ง 2 เพลง ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นเพลงของคนสองคนมาตั้งแต่แรก อาจจะเพราะยืมเพลงเพื่อนไปร้องกันบ่อยมากจนเหมือนเป็นเพลงตัวเองไปแล้วก็ได้ และ 2 เพลงนี้ทำให้เห็นชัดเลยว่าเต๋าร้องเพลงช้าได้เพราะและสื่ออารมณ์มาก ส่วนคชาก็ร้องเพลงเร็วได้แข็งแรงและเต้นได้...ไม่อยากให้ใครยึดติดว่าเต๋าต้องร้องแต่เพลงเร็ว และคชาต้องร้องแต่เพลงช้าเลยจริง ๆ
เธอไม่เป็นไรแต่ฉันเป็น + เพราะเธอคนเดียว รอบมีแดด (Cr. BKKKNOK Channel)

ในฐานะแฟนของคู่นี้ก็คาดหวังว่าจะได้ฟังเพลง 'อยากรู้แต่ไม่อยากถาม' ที่พวกเขาเคยร้องด้วยกันตอนประกวดอีกครั้ง แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นนโยบายไม่ใช้เพลง GMM หรือเปล่า ...ซึ่งเท่ากับว่ายังไม่เคยได้ยินเต๋ากับคชาร้องเพลงนี้นอกเวทีประกวดเลย (เวอร์ชั่นที่ชอบที่สุดคือ อยากรู้แต่ไม่อยากถาม รันทรู/2 Cr. rakowen Channel) เชื่อว่าถ้าเอามาร้องใหม่ตอนนี้มันจะต้องเพราะกว่านั้นอีกหลายเท่าแน่ ๆ เพราะทั้งคู่ร้องเพลงดีขึ้นมากจริง ๆ (เพลงเดี่ยวเพลงแรกของทั้งคู่ในคอนเสิร์ตคือที่สุด)

หลายสิ่งหลายอย่างที่ได้เห็นในคอนเสิร์ตครั้งนี้ก็คือสิ่งที่แฟน ๆ ช่วยกันเสนอเข้าไป อย่างอยากเห็นพวกเค้าเล่นดนตรีด้วยกัน อยากเห็นโมเม้นท์ตอนเตะบอล อยากเห็นเค้าเล่นละครเรื่องเดียวกัน ฯลฯ เรียกว่าพยายามจะเซอร์วิสกันสุด ๆ เท่าที่จะทำได้แล้ว ขนาดมีฉากเช็ดผมให้บนเวทีแทนฉากเป่าผมนี่ก็ต้องนับถือในความพยายามกันจริง ๆ 555

เสียดายนิดเดียวคือการเล่าเรื่องมันเหมือนจะจบแต่ไม่จบ คือทิ้งไว้ที่ single แรกของทั้งคู่ (จากนั้นก็เป็นช่วง Dance ที่เปลี่ยนรูปแบบไปเป็นรูปแบบของคอนเสิร์ตเต็มตัว) จริง ๆ คือแอบหวังว่าจะเอา single ใหม่ในอนาคตของทั้งคู่มาเปิดตัวในคอนเสิร์ตด้วย ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นน่าจะจบเรื่องราวในส่วนของซีรี่ส์ได้สุดกว่านี้ (แถมยัง 'ยิงนัดเดียว ได้นกทั้งฝูง' เพราะจะได้ PR ล่วงหน้าไปในตัว) ยิ่งเห็นทางทรูเตรียมปล่อย single ใหม่หลังคอนเสิร์ตไม่กี่วันแบบนี้ก็ยิ่งเสียดาย เพราะโอกาสจะได้เอาเพลงตัวเองมาร้องบนคอนเสิร์ตแบบนี้คงไม่มีมาบ่อย ๆ นัก เอ๊ะ! หรือเค้าจะเก็บไว้เป็นซีรี่ส์ภาคต่อให้เราตามดูกันอีกเนี่ย?

ไม่น่าเชื่อเหมือนกันว่าเวลาปีกว่า ๆ จะทำให้เด็ก 2 คนพัฒนาได้ถึงเพียงนี้ ตอนแรกแอบไม่แน่ใจว่าเร็วไปไหมสำหรับคอนเสิร์ตสเกลขนาดนี้ กับนักร้องที่เพิ่งเข้าวงการมาได้ยังไม่ทันครบปีดี และก็เพิ่งจะมีเพลงของตัวเองจริง ๆ แค่คนละเพลง...แต่ต้องบอกว่ากับคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรก พวกเขาทำได้ดูเพลิน ดูสนุก ดูแล้วครีบปลาจริง ๆ :)

Moment ชวนยิ้ม

ขอปิดท้ายด้วยโมเม้นท์ชวนอมยิ้มที่เกิดขึ้นในคอนเสิร์ต

แฟน ๆ จะรู้กันดีว่าคชากับคำว่า 'น่ารัก' เป็นของคู่กัน ถ้าเห็นรูปหรือคลิปของคชาที่ไหน เรามักจะเห็นคนคอมเม้นท์ว่า 'น่ารัก' เต็มไปหมด

แต่นั่นเป็นแค่ตัวหนังสือ...

ลองนึกภาพในคอนเสิร์ต มีคนดูเป็นเงาตะคุ่ม ๆ ในความมืด...แล้วมีเสียงผู้หญิงพูดด้วยโทนเสียงสูง แบบเอ็นดูสุด ๆ ว่า 'น่ารัก' ดังขึ้นทุกทิศทาง คล้ายมีบอลลูนคำพูดที่เขียนว่า 'น่ารัก' เด้งขึ้นมาในเงามืดตลอดเวลา (เป็นแบบนี้ทั้งคอนเสิร์ตจริง ๆ นะ)...เป็นประสบการณ์การดูคอนเสิร์ตที่แปลกดีเหมือนกัน^^

Fun Facts

ตามประสาคนที่มีโอกาสดูรอบบ่ายแค่รอบเดียว เลยตั้งใจดูคลิปรอบค่ำเป็นพิเศษว่ามีอะไรไม่เหมือนกันบ้าง (นอกจากแขกรับเชิญที่มากกว่า 1 คน)
และนี่คือความแตกต่างที่เรามองเห็น (และมีภาพหลักฐาน)
ขอบคุณเจ้าของภาพทุกภาพที่เก็บโมเม้นท์เหล่านี้มาให้จับผิด เอ๊ย! เปรียบเทียบค่ะ
*1 คือรอบบ่าย 2 คือรอบค่ำ

1. ท่าจบเพลง Balloon (Cr.FatRabbit / _JJumay_)