Bonjour Amsterdam (9) นั่งรถไฟ Thalys


ทริปปารีสของเราซื้อตั๋วมาลงที่เนเธอร์แลนด์ เพราะอยากประหยัดค่าตั๋วเครื่องบิน
เลยต้องนั่งรถไฟความเร็วสูงที่ชื่อ Thalys ไป-กลับ อัมสเตอร์ดัม-ปารีส อีกประมาณ 3-4 ชั่วโมง
แลดูลำบาก แต่ก็ถือว่าได้เที่ยวแบบ 2 in 1 ได้นั่งรถไฟด้วยไง^^

ก่อนไปจัดการซื้อตั๋วรถไฟล่วงหน้า (ในราคาถูกสุด) ผ่านเว็บไว้เรียบร้อยแล้ว (ตามนี้) ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีที่นั่ง กังวลเรื่องไปขึ้นรถให้ทันเวลาก็พอ

รถไฟอยู่ไหน?
ตามความเข้าใจของเรา รถไฟความเร็วสูงก็ต้องมีที่จอดเป็นที่เป็นทาง แต่ปรากฏว่าไปถึงสถานี Amsterdam Centraal เร็วไปหน่อย คือก่อนรถไฟออกเกือบ 4 ชั่วโมง เลยอยากดูลาดเลาไว้ก่อนจะออกไปเดินเล่น แต่หายังไงก็หาไม่เจอว่ารถจะจอดตรงชานชาลาไหน  พอถามเจ้าหน้าที่ ก็ได้คำตอบว่ายังไม่รู้เลย ไว้ใกล้ ๆ เวลาแล้วค่อยมาถามอีกทีนะ
เฮ้ย! แบบนี้ก็มีด้วย


Amsterdam Centraal Station


แต่ถ้าเป็นที่สถานี Paris Nord รถ Thalys จะมีที่จอด (ท่า) ของตัวเองชัดเจนเลย
รถก็มาจอดรอเห็น ๆ หาเจอง่ายมาก



Paris Nord (Gare du Nord)

แต่ตอนมาลงรถไฟที่ Paris Nord ไม่เห็นจะจอดเทียบให้ใกล้ ๆ แบบนี้นะ เราเจอรถไฟจอดต่อท้ายกัน งงเลยว่ามาถึงแล้วหรือนี่ เพราะมองไม่เห็นตัวสถานี

ตอนมาถึงปารีสต้องเดินไกลใช้ได้ ที่เห็นลิบ ๆ คือตัวสถานี Paris Nord

วิธีจอดรถไฟความเร็วสูง เค้าจอดกันแบบนี้!


ตั๋วพร้อม!
ตอนแรกเตรียมตั๋วเป็นบาร์โค้ดใส่มือถือมาเลย อยากลอง เพราะไหน ๆ ก็ซื้อตั๋วแบบ ticketless ที่เค้าจะส่งบาร์โค้ดมาให้ใช้แทนตั๋ว
แต่ไป ๆ มา ๆ ใบจองแบบที่ print มาเป็นกระดาษเนี่ยเวิร์กสุดละ เพราะยื่นให้คนอื่นช่วยดูก็ได้ ง่ายดี
ตอนขึ้นจากอัมสเตอร์ดัมไม่เจอเจ้าหน้าที่ ก็ยื่นให้ผู้โดยสารด้วยกันช่วยดู
ส่วนตอนนั่งกลับจากปารีสมีเจ้าหน้าที่รถไฟมายืนตรวจตั๋วอยู่ตรงทางขึ้นก็ยื่นให้ดูได้เลย


เก็บกระเป๋า
ในตั๋วรถไฟจะระบุว่าให้ไปถึงชานชาลาก่อนรถออกอย่างน้อย 2 นาที
แต่ไปถึงรถยิ่งเร็วยิ่งดี เพราะที่่เก็บกระเป๋าเดินทางใกล้ ๆ ประตูขึ้น-ลงมันจะเต็มเร็วมาก (ก็เป็นรถไฟระหว่างประเทศนี่นา) แล้วชั้นวางของข้างใน (เหนือที่นั่ง) มันก็แคบมาก แถมยังอยู่สูงจนผู้หญิงตัวเตี้ยอย่างเราลำบาก ช่วยกันยก 2 คน กระเป๋ายังไม่ค่อยจะยอมขึ้นไปเลย


พาสปอร์ต
ขาไปจากอัมสเตอร์ดัมไม่เจอตรวจอะไรเป็นพิเศษ กว่าจะเจอพนักงานตรวจตั๋วนี่หลับไปไม่รู้กี่ตื่นแล้ว พอนั่งกลับจากปารีสเลยไม่ได้คิดว่าต้องเตรียมพาสปอร์ตไว้ให้ตรวจด้วย
แต่ปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่มาเดินตรวจพาสปอร์ตตามที่นั่ง เลยต้องวุ่นวายยกกระเป๋าเดินทาง (ที่ยกกันขึ้นไป 2 คนแทบไม่ไหวนั่นแหละ) ลงมารื้อค้นกันกลางขบวน มันฮาตรงที่พอจะต้องยกกระเป๋าใบอื่น ๆ เพื่อหยิบพาสปอร์ตอีก เค้าก็รีบโบกมือบอกว่าถ้ามาด้วยกันก็ตรวจแค่นี้พอ ประมาณว่าขี้เกียจช่วยยกแล้ว
เฮ้ย! แบบนี้ก็มีด้วย

ฝรั่งเนียน
เรื่องแปลกที่ไม่นึกว่าจะเจอบนรถไฟ Thalys ก็คือเจอคนนั่งอยู่ตรงที่นั่งที่เราจองไว้!
อารมณ์คล้าย ๆ เวลานั่งรถทัวร์ไปต่างจังหวัดแล้วเจอคนดูเลขที่นั่งผิด
แต่นี่มันไม่ใช่
กวาดตามองทั้งรถแล้วเหลือที่ว่างที่เดียวคือข้างหลังที่นั่งของตัวเอง ก็เลยนั่ง ๆ ไปก่อน (โดยที่ไม่ได้โวยวายอะไรเพราะท่าทางเหมือนเค้ามาด้วยกัน และเราก็ไม่อยากจะขัด...ด้วยการพูดภาษาอังกฤษงู ๆ ปลา ๆ 555)
จนไอ้หนุ่มที่นั่งผิดนั่นลงก่อนที่สถานีถัดไป (อ้าว! มันไม่ได้มาด้วยกัน) เลย get ละ ว่าไม่ใช่การเผลอนั่งผิด ก็คนที่จริง ๆ ต้องนั่งคู่กับเราเป็นสาวเสื้อกล้าม หน้าตาดี หุ่นก็ดี ผิวก็ยังดี
มิน่า...


เยี่ยมชมตู้เสบียง



โชคดีว่าเพื่อนอยากกินน้ำดื่มแบบอัดก๊าซ เลยมีข้ออ้างไปเดินเล่นที่ตู้เสบียง (จะเดินไปถ่ายรูปเฉย ๆ แล้วกลับก็เกรงใจ 555)
แน่นอนว่าเป็นตู้เสบียงก็ต้องมีของกิน ทั้งเครื่องดื่มและอาหารง่าย ๆ แต่ตู้เสบียงของรถไฟ Thalys ยังขายตั๋วรถไฟใต้ดิน รถเมล์ และรถรางด้วย เรียกว่าลงจากรถไฟก็ต่อรถได้เลย สะดวกดี  ไม่ต้องไปเดินหาซื้อตั๋ว แล้วถ้าแปลไม่ผิด ตั๋วที่ขายบนนี้ก็ไม่มีการชาร์จเพิ่มด้วย




ชมวิวนอกหน้าต่าง


ช่วงเวลา 3-4 ชั่วโมงบนรถไฟ ถ้าไม่ กิน หลับก็ดูวิวนี่แหละ
ทางรถไฟระหว่าง อัมสเตอร์ดัม-ปารีส จะวิ่งผ่าน 3 ประเทศ คือ เนเธอร์แลนด์ เบลเยี่ยม แล้วก็ฝรั่งเศส 
ช่วงที่เป็นวิวธรรมชาติก็ดูเพลินดีหรอก แต่พอเข้าเมืองทีไร เราจะรู้สึกแปลก ๆ ทุกที 
คือตามความเข้าใจ track ของรถไฟความเร็วสูงก็จะยกระดับนิดนึง แต่ที่นี่ บางช่วงรถจะวิ่งอยู่ในรางใต้ดิน มองออกไปเห็นแต่ความมืดนอกหน้าต่างแล้วขนลุกแบบบอกไม่ถูก (ที่นี่ที่ไหน 555) 
ส่วนวิวของเมืองก็ไม่ค่อยเห็นผู้คน เห็นแต่สิ่งก่อสร้างเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยงานกราฟิตี้
มันช่างเงียบ และดูวังเวงเหมือนเมืองร้างที่ไม่มีมนุษย์อยู่จริง ๆ นะ 











Comments