Bonjour Amsterdam (11) La Maison Bacana B&B อาหารดี ดนตรีไพเราะ
ข้อดีของการมีเพื่อนเดินทางที่คิดไม่เหมือนกันบ้าง (นิดหน่อย) คือเราจะได้เจออะไรที่แตกต่างไปจากวิธีคิดเดิม ๆ ของตัวเอง
เพื่อนร่วมทริปชวนไปพักที่ La Maison Bacana ที่อยู่ชานเมืองปารีส เพราะดูรูปแล้วตกหลุมรักอย่างแรง คือบ้านน่ารักน่าเอ็นดูมาก ๆ แถมคะแนนรีวิวก็ยังได้เกือบเต็ม 100
นี่แสดงว่าเค้าต้องดีจริง ๆ นะ
ตามประสาคนช่างติ เราว่าที่นี่ไกลไปนิด คืออยู่ในโซน 3 (สถานี Vitry-sur-Seine) ซึ่งค่ารถมันจะแพงกว่าอยู่โซน 1 (คือในตัวเมืองที่เราจะเที่ยวกัน) และแน่นอนว่าเวลาเดินทางไปไหนมาไหนก็จะต้องนั่งรถนานกว่าด้วย
ถ้าตัดสินใจเองก็คงไม่เลือกที่นี่...แต่จะว่าไป ประหยัดกว่าและเร็วกว่าก็ไม่ได้แปลว่าดีกว่า...ใช่มั้ยล่ะ
สุดท้ายก็ยอมแพ้ให้กับความน่ารักของสถานที่และความรักของเพื่อน เลยจัดการจองไป 2 คืน เพราะมีห้องว่างอยู่แค่นี้แหละ
นี่แสดงว่าเค้า hot จริง ๆ นะ
เจ้าของที่พักชื่อเฟร็ดสร้างความประทับใจตั้งแต่แรกจองเลย
เขาส่งเมล์ยาวเหยียดมาแนะนำวิธีการเดินทางให้แบบละเอียดยิบ พร้อมภาพประกอบ และที่เด็ดคือ มีการเตือนให้ระวังพวกนักล้วงกระเป๋าพร้อมแปะ link เว็บไซต์ที่ให้คำแนะนำมาด้วย
และเมื่อได้เจอตัวเป็น ๆ เฟร็ดก็เป็นคนแบบนั้น คือชอบเล่า ชอบสอน ชอบให้รายละเอียด ตอนอาหารเช้าเป็นเวลาที่เค้าจะพูดคุยกับแขกทุกโต๊ะ (นอกจากจะคอยเสิร์ฟชา-กาแฟจนเราเกรงใจ)
เป็นฝรั่งที่เข้ากับคนแปลกหน้า ( และหน้าแปลก) ได้เก่งเหลือเชื่อ
เพื่อนร่วมทริปชวนไปพักที่ La Maison Bacana ที่อยู่ชานเมืองปารีส เพราะดูรูปแล้วตกหลุมรักอย่างแรง คือบ้านน่ารักน่าเอ็นดูมาก ๆ แถมคะแนนรีวิวก็ยังได้เกือบเต็ม 100
นี่แสดงว่าเค้าต้องดีจริง ๆ นะ
ตามประสาคนช่างติ เราว่าที่นี่ไกลไปนิด คืออยู่ในโซน 3 (สถานี Vitry-sur-Seine) ซึ่งค่ารถมันจะแพงกว่าอยู่โซน 1 (คือในตัวเมืองที่เราจะเที่ยวกัน) และแน่นอนว่าเวลาเดินทางไปไหนมาไหนก็จะต้องนั่งรถนานกว่าด้วย
ถ้าตัดสินใจเองก็คงไม่เลือกที่นี่...แต่จะว่าไป ประหยัดกว่าและเร็วกว่าก็ไม่ได้แปลว่าดีกว่า...ใช่มั้ยล่ะ
สุดท้ายก็ยอมแพ้ให้กับความน่ารักของสถานที่และความรักของเพื่อน เลยจัดการจองไป 2 คืน เพราะมีห้องว่างอยู่แค่นี้แหละ
นี่แสดงว่าเค้า hot จริง ๆ นะ
เจ้าของที่พักชื่อเฟร็ดสร้างความประทับใจตั้งแต่แรกจองเลย
เขาส่งเมล์ยาวเหยียดมาแนะนำวิธีการเดินทางให้แบบละเอียดยิบ พร้อมภาพประกอบ และที่เด็ดคือ มีการเตือนให้ระวังพวกนักล้วงกระเป๋าพร้อมแปะ link เว็บไซต์ที่ให้คำแนะนำมาด้วย
และเมื่อได้เจอตัวเป็น ๆ เฟร็ดก็เป็นคนแบบนั้น คือชอบเล่า ชอบสอน ชอบให้รายละเอียด ตอนอาหารเช้าเป็นเวลาที่เค้าจะพูดคุยกับแขกทุกโต๊ะ (นอกจากจะคอยเสิร์ฟชา-กาแฟจนเราเกรงใจ)
เป็นฝรั่งที่เข้ากับคนแปลกหน้า ( และหน้าแปลก) ได้เก่งเหลือเชื่อ
เอ๊ะ! บอกไปหรือยังว่าที่นี่คือ BnB -บ้านที่เปิดเป็นที่พักพร้อมมีอาหารเช้า โต๊ะอาหารของเฟร็ดมันเปลี่ยนไปทุกวัน แล้วก็น่าถ่ายรูปทุกวัน (เป็นคนที่เลือกใช้สีได้แบบสุดยอด) กว่าจะถ่ายรูปเสร็จ กว่าจะกินเสร็จ (ดันอร่อยทุกอย่างอีก) สรุปว่าออกจากบ้านสายทุกวันเลย 555
ความน่ารักของเฟร็ดคือ ของที่เรากินไม่หมด เขาจะให้พวกเราแพ็กติดกระเป๋าไว้ (มีฟอยล์มาให้ห่อเสร็จสรรพ) ถึงจะย้ายออกไปพักที่อพาร์ตเม้นต์แล้วก็ยังนึกถึงเฟร็ดเสมอเวลาหยิบเค้กออกมากิน^^
สรุปว่าที่นี่สำหรับเราไฮไลต์มันอยู่ที่ห้องอาหารจนลืมถ่ายรูปห้องนอนไปเลย 555
ห้องอาหารของเฟร็ด มองมุมไหนก็ชอบไปหมด เพลงที่เปิดก็เพราะอีก
ห้องที่พักนอน เป็น regular room สำหรับ 5 คน อยู่ชั้นล่าง มีเตียง 1 เตียงสองชั้น 1 แล้วก็เบาะนอนกับพื้นอีก 1 แล้วก็ห้องน้ำ
จัดว่านอนหลับสบาย (ถึงขนาดกลับมาซื้อหมอนอิเกียใช้ตาม) แต่พอตื่นกันแล้วจะไม่ค่อยมีที่เดินและนั่งเท่าไหร่
อะไร ๆ ก็ดีแต่ที่น่าจะมีคือรองเท้าแตะ (หมายถึงน่าจะเตรียมไปเอง)
คือบ้านฝรั่งเค้าไม่ถอดรองเท้าไง พออาบน้ำเสร็จแล้วเดินบนพื้น เรารู้สึกอยากล้างเท้าใหม่ตลอดเวลาเลย -_-'
เอาจริง ๆ มาพักที่นี่ก็ไม่ได้ไกลอย่างที่คิด จากปารีส นั่งมาประมาณ 4 สถานี แต่รู้สึกว่าแป๊บเดียว เพราะแต่ละสถานีจะอยู่ห่างกัน และเอาจริง ๆ ก็รู้สึกว่ามาฝรั่งเศสครั้งแรกแล้วได้มาพักที่นี่ก็ดีนะ เหมือนได้เข้าคอร์สฝรั่งเศส 101 คือถ้าไปพักอพาร์ตเม้นท์แต่แรกก็คงไม่ได้รู้อะไรอีกหลาย ๆ เรื่องเลย
เฟร็ดกับอาณาจักร colorful ของเค้า
เฟร็ดชอบเดินทาง แล้วก็ชอบอะไรเอเชีย ๆ สวนของเฟร็ด...ไม่บอกจะรู้มั้ยเนี่ยว่าอยู่ที่ฝรั่งเศส
คืนสุดท้ายในฝรั่งเศส นึกยังไงไม่รู้ เปิดเมล์ขึ้นมาอ่านฆ่าเวลา
เห็นเฟร็ดส่งเมล์มาตั้งแต่วันที่เราเช็กเอาต์ ว่าใครสักคนในหมู่เราลืมเงินไว้ที่บ้านเขา!!!
วันรุ่งขึ้นเลยต้องรีบบึ่งไปรับเงินคืนก่อนจะกลับมาเช็กเอาต์แล้วขึ้นรถไฟไปอัมสเตอร์ดัม
เฟร็ดบอกว่าเงินไทยที่ลืมไว้ เขาไม่รู้หรอกว่ามันมากมั้ย แต่สำหรับเขารู้สึกว่ามันเยอะมาก... ซึ้งจัง
Links :
Comments