Bonjour Amsterdam (8) เหรียญก็สำคัญ (มาก)
ไม่เคยนึกมาก่อนว่าการไม่มีเหรียญยูโรติดกระเป๋าจะทำให้ชีวิตการเดินทางยุ่งยากได้ขนาดนี้
ไปถึงสนามบินสคิปโพล (Schiphol) ก็ลำบากเลย จะซื้อตั๋วรถไฟจากสนามบินเข้าเมืองไปสถานี Centraal ในอัมสเตอร์ดัม
แต่ไปรู้ตรงนั้นแหละว่าตู้ขายตั๋วรถไฟอัตโนมัติรับแค่เหรียญกับบัตรเครดิต (ที่ปารีสก็ด้วย)
ทำไงได้ล่ะ ตอนไปแลกเงินก็ได้มาแต่แบงค์นี่นา -_-'
ยังดีที่มีพนักงานขายตั๋ว แต่ต้องไปต่อคิว (ยาวมาก [3]) ซึ่งก็ประทับใจจริง ๆ เพราะตั๋วรถไฟที่ซื้อจากตู้ราคาใบละ 4 ยูโร พนักงานที่เคาน์เตอร์ขายเราในราคา 2 ใบ 9 ยูโร (มีชาร์จเพิ่มใบละ .5 ยูโรด้วยจ้า [4])
หลังจากนั้นก็เลยต้องทำตัวเป็นนักสะสมเหรียญไปเลย (โดยเฉพาะขากลับ ที่ต้องไม่ลืมเก็บเหรียญไว้ 4 ยูโรเพื่อซื้อตั๋วกลับมาสนามบินสคิปโพลนี่แหละ)
ไปถึงสนามบินสคิปโพล (Schiphol) ก็ลำบากเลย จะซื้อตั๋วรถไฟจากสนามบินเข้าเมืองไปสถานี Centraal ในอัมสเตอร์ดัม
แต่ไปรู้ตรงนั้นแหละว่าตู้ขายตั๋วรถไฟอัตโนมัติรับแค่เหรียญกับบัตรเครดิต (ที่ปารีสก็ด้วย)
ทำไงได้ล่ะ ตอนไปแลกเงินก็ได้มาแต่แบงค์นี่นา -_-'
พยายามแตกแบงค์ใหญ่ยังไง ก็ไม่ได้เงินทอนเป็นเหรียญมากพอจะซื้อตั๋ว (ตั๋วใบละ 4 ยูโร ซื้อ 2 คน = 8 เหรียญ!!!) [1]
พอจะลองใช้บัตรเครดิต ก็พบว่าต้องกดรหัสผ่าน 4 ตัวด้วย (ถามว่ายังจำรหัสผ่านที่เค้าให้มาตอนเปิดใช้บัตรได้มั้ย... -_-' [2])ยังดีที่มีพนักงานขายตั๋ว แต่ต้องไปต่อคิว (ยาวมาก [3]) ซึ่งก็ประทับใจจริง ๆ เพราะตั๋วรถไฟที่ซื้อจากตู้ราคาใบละ 4 ยูโร พนักงานที่เคาน์เตอร์ขายเราในราคา 2 ใบ 9 ยูโร (มีชาร์จเพิ่มใบละ .5 ยูโรด้วยจ้า [4])
หลังจากนั้นก็เลยต้องทำตัวเป็นนักสะสมเหรียญไปเลย (โดยเฉพาะขากลับ ที่ต้องไม่ลืมเก็บเหรียญไว้ 4 ยูโรเพื่อซื้อตั๋วกลับมาสนามบินสคิปโพลนี่แหละ)
[1] บางทีการแตกแบงค์ก็ไม่ได้ง่าย เพื่อนที่บินไปลงฝรั่งเศสตอนเกือบเที่ยงคืนบอกว่าอะไร ๆ ก็ปิดเกือบหมดแล้ว โชคดีมาก ๆ ที่แม่เพื่อนเตรียมเหรียญมาให้...ไม่งั้นคงซื้อตั๋วรถไฟไปโรงแรมไม่ได้แน่ ๆ
[2] เคยถามธนาคารที่ออกบัตร เค้าบอกว่าถ้าจำรหัสไม่ได้ก็ต้องขอรหัสใหม่...ซึ่งเสียเงินค่าขอด้วย แต่ถึงรู้รหัสบัตรเครดิต ตู้ขายตั๋วบางตู้ก็ออกตัวไว้เลยนะ ว่ารับเฉพาะบัตรที่ออกในเขต EU เท่านั้น (เอาเข้าไป)
[3] วันนั้นคิวซื้อตั๋วกับพนักงานที่สนามบินสคิปโพลยาวมากเป็นพิเศษ คือนักท่องเที่ยวก็ไม่มีเหรียญเหมือนกันทั้งนั้นแหละ 555 แถมวันนั้นซวยซ้ำซ้อนเพราะสถานีรถไฟที่สนามบินปิดบำรุงรักษา แต่ยังไงเราก็ต้องซื้อตั๋วรถไฟ เพราะเค้าจะพาขึ้นรถบัสไปส่งที่สถานีรถไฟใกล้ ๆ ให้ (รถบัสจากสนามบินเข้าไปสถานี Centraal ก็ไม่มีด้วยนะ ยังไงก็ต้องไปต่อรถแบบนี้) กระเป๋าหนัก ฝนก็ตก สถานีรถไฟใกล้เคียงอันนั้นไม่มีบันไดเลื่อน...ชีวิต!
[4] ที่ปารีสซื้อตั๋วกับเคาน์เตอร์ไม่มีชาร์จเพิ่ม แต่...เคยเจอพนักงานบางคน ยังไง้ยังไงก็ไม่ยอมขายให้ ผลักไสให้เราไปกดซื้อที่ตู้เอาเองอย่างเดียวเลย
จะว่าไปบ้านเราเพิ่งทำรถไฟฟ้าได้ไม่นาน (เมื่อเทียบกับยุโรป) เราก็เลยไม่รู้ว่าโชคดีแค่ไหนที่ใช้แบงค์ซื้อตั๋วรถไฟฟ้าได้ (ถึงไม่มีเหรียญก็มีตู้แลกเหรียญ และพนักงานที่คอยรับแลกเหรียญให้ เซอร์วิสสุด ๆ)
ตอนกลับมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เสียบแบงค์ใส่ตู้ซื้อตั๋วของรถไฟแอร์พอร์ตลิ้งค์ได้แล้วน้ำตาจะไหลเลยนะ 555
[2] เคยถามธนาคารที่ออกบัตร เค้าบอกว่าถ้าจำรหัสไม่ได้ก็ต้องขอรหัสใหม่...ซึ่งเสียเงินค่าขอด้วย แต่ถึงรู้รหัสบัตรเครดิต ตู้ขายตั๋วบางตู้ก็ออกตัวไว้เลยนะ ว่ารับเฉพาะบัตรที่ออกในเขต EU เท่านั้น (เอาเข้าไป)
[3] วันนั้นคิวซื้อตั๋วกับพนักงานที่สนามบินสคิปโพลยาวมากเป็นพิเศษ คือนักท่องเที่ยวก็ไม่มีเหรียญเหมือนกันทั้งนั้นแหละ 555 แถมวันนั้นซวยซ้ำซ้อนเพราะสถานีรถไฟที่สนามบินปิดบำรุงรักษา แต่ยังไงเราก็ต้องซื้อตั๋วรถไฟ เพราะเค้าจะพาขึ้นรถบัสไปส่งที่สถานีรถไฟใกล้ ๆ ให้ (รถบัสจากสนามบินเข้าไปสถานี Centraal ก็ไม่มีด้วยนะ ยังไงก็ต้องไปต่อรถแบบนี้) กระเป๋าหนัก ฝนก็ตก สถานีรถไฟใกล้เคียงอันนั้นไม่มีบันไดเลื่อน...ชีวิต!
[4] ที่ปารีสซื้อตั๋วกับเคาน์เตอร์ไม่มีชาร์จเพิ่ม แต่...เคยเจอพนักงานบางคน ยังไง้ยังไงก็ไม่ยอมขายให้ ผลักไสให้เราไปกดซื้อที่ตู้เอาเองอย่างเดียวเลย
จะว่าไปบ้านเราเพิ่งทำรถไฟฟ้าได้ไม่นาน (เมื่อเทียบกับยุโรป) เราก็เลยไม่รู้ว่าโชคดีแค่ไหนที่ใช้แบงค์ซื้อตั๋วรถไฟฟ้าได้ (ถึงไม่มีเหรียญก็มีตู้แลกเหรียญ และพนักงานที่คอยรับแลกเหรียญให้ เซอร์วิสสุด ๆ)
ตอนกลับมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เสียบแบงค์ใส่ตู้ซื้อตั๋วของรถไฟแอร์พอร์ตลิ้งค์ได้แล้วน้ำตาจะไหลเลยนะ 555
Comments