via Hong Kong : ตามรอยร้านอร่อย จิบชา ชิมทาร์ต และชุดอาหารสุดคุ้ม

ตั๋วเครื่องบินราคาประหยัดทำให้หลายคนหลงไปฮ่องกงได้ง่าย ๆ 
เราก็เคยจะไปที่อื่นแล้วหลงมา transfer ที่นี่เหมือนกัน
แต่ทริปล่าสุดนี่ ไม่ได้หลงล่ะ ตั้งใจแวะเลย 

เราว่าฮ่องกงก็รู้ว่าคนชอบมาแวะเที่ยวด้วยแหละ เค้าถึงตั้งราคาตั๋วรถไฟ Airport Express แบบไป-กลับในวันเดียวกัน ถูกกว่าไป-กลับคนละวันครึ่งนึงเลย คือเหลือแค่ 100 เหรียญเท่านั้น (ตอนแรกอ่านข้อมูลไม่ละเอียด เกือบซื้อตั๋วไปขาเดียว 100 เหรียญ แล้วก็กลับอีก 100 เหรียญแล้ว) 



28 นาที ถึงสถานีฮ่องกงเลย


เราเลือกเครื่องไฟลท์เช้าสุดจากดอนเมือง  แล้วก็เลือกเครื่องที่ออกออกจากฮ่องกงตอนดึกมาก ๆ (จริง ๆ เรียกว่าเช้าอีกวันเลยต่างหาก) สรุปว่ามีเวลาเกือบ 16 ชั่วโมง กับมิชชั่นที่ต้องทำ 4 อย่าง คือไปดูนิทรรศการ Life is Only One ของ Yoshitomo Nara (เป้าหมายหลักที่ต้องมาแวะ) ส่วนอีก 3 มิชชั่นที่เหลือคือเรื่องกินล้วน ๆ 

เสร็จจากมิชชั่นแรกเกือบเย็น ก็ได้เวลาไปทำภารกิจตามหาของอร่อยแถว ๆ สถานี Central ต่อ ที่ต้องเป็นแถวนั้นไม่มีอะไรซับซ้อน คือรถไฟที่จะนั่งกลับไปสนามบินมันต้องขึ้นจากแถวนั้นนั่นเอง


Lan Fong Yuen จิบชาข้างถังขยะ 


ร้านขายชาที่ผู้แนะนำบอกว่า เห็นหน้าตาเหมือนร้านแผงลอยอย่างนี้แต่อย่าได้มองข้ามเชียว เราสั่งชาเย็นใส่นมแล้วหลบมาหามุมสงบยืนจิบ (ดูด) ชาที่ฝั่งตรงข้ามร้าน เท่าที่ยืนสังเกตการณ์อยู่ก็เห็นลูกค้ามาซื้อตลอด และตามประสาร้านดัง ลูกค้าต้องเซลฟี่คู่กับร้านเป็นที่ระลึกทั้งนั้น  ชานมแบบเย็นราคา 20 เหรียญฮ่องกง กลิ่นหอม รสหวานพอดี  อร่อยคุ้มค่ากับการเดินหาร้าน แต่ดูด 3 ทีหมดละ 555 



Tai Cheong Bakery ร้านทาร์ตไข่จากยุค 50 


ลูกค้าของร้านชา Lan Fong Yuen บางคนจะมีขนมทาร์ตไข่ในมือด้วย (เอามายืนกินคู่กับชา) นั่นก็เพราะว่าร้าน Tai Cheong Bakery ที่ขายขนมทาร์ตไข่เจ้าอร่อย ตั้งอยู่ใกล้ ๆ กันชนิดเดินถึงภายใน 1 นาที (แต่เรางงทิศอยู่นาน จนหาร้านเกือบไม่เจอ T_T) คือแค่เดินจากหัวมุมตึกตรงร้านขายชามานิดนึงก็เจอละ (อย่าเดินเข้าซอย Gage Street ไปแบบเราเด็ดขาด) ขนมทาร์ตราคาชิ้นละ 7 เหรียญ ถูกกว่าบ้านเรามาก รสชาติก็ดีกว่ามากด้วย (เนื้อไข่เนียนเหมือนวุ้นเลย) ที่ร้านนี้ไม่มีที่นั่ง ก็เลยจะได้เห็นคนแต่งตัวดี ๆ ยืนกินขนมทาร์ตหน้าร้านกันเป็นเรื่องปกติ บางคนกินเสร็จแล้วทิ้งถุงไว้หน้าร้านเลยก็มี -_-'






อุตส่าห์เดินมาตั้งไกลเลยถือทาร์ตกลับไป (ยืน) กินแกล้มชาร้อนที่ Lan Fong Yuen อีกแก้ว แบบร้อนราคาถูกกว่าแบบเย็น 5 เหรียญ ชาร้อนร้อนมาก (ลวก) แต่ไม่หวานเลย เพราะเค้าให้น้ำตาลมาเติมเอง





พอกลับไปซื้อรอบสองถึงได้มีเวลาพิจารณาว่าหน้าร้านเต็มไปด้วยรูปคนดังนี่นา แต่เรารู้จักโจวเหวินฟะแค่คนเดียว




CAFE DE CORAL
ร้านอาหารที่ได้รับคำแนะนำมาว่าอร่อย และมีเซ็ตประหยัดสุดคุ้ม ร้านนี้มีหลายสาขา แต่สาขาแรกที่เจอตรงกับมื้อเที่ยงพอดี คนแน่นมาก ขนาดมีบริการสั่งล่วงหน้าผ่านแอพคิวก็ยังยาวไปนอกร้าน เห็นแล้วยอมแพ้จริง ๆ เพราะต่อให้ซื้ออาหารได้ก็ไม่มีที่นั่งกินอยู่ดี  อย่างที่บอกว่าเค้ามีหลายสาขา แถวสถานี Central ก็มีแต่ไม่ได้แวะ ได้กินจริง ๆ ก็ที่ร้านในสนามบิน เลยไม่รู้ว่าเมนู รสชาติ และราคาเหมือนหรือต่างกับสาขาอื่นยังไง แต่ที่นี่แค่พริกยังอร่อยแล้วอ่ะ^^




จริง ๆ รถไฟ Airport Express ของฮ่องกงเค้าวิ่งถึงตีหนึ่งกว่าเลย แต่ไม่ได้กะจะเที่ยวหามรุ่งหามค่ำขนาดนั้น แค่ไปตามหาร้านอร่อยก็หลงทางจนค่ำละ^^' พอดีคราวนี้ไฟลท์ที่เลือกไม่ได้เป็นของสายการบินเดียวกัน (ข้อดีของการซื้อตั๋ว low-cost คือค่อย ๆ ซื้อทีละขา คนละยี่ห้อ แล้วแต่โปรฯ ก็ทำได้)  ก็เลยต้องฝากกระเป๋าใบใหญ่ (กว่า) ไว้ที่สนามบิน ปรากฏว่าค่าฝากกระเป๋าแพงกว่าค่ารถไฟเข้าเมืองอีก -_-' 

*ที่รับฝากกระเป๋าในสนามบินฮ่องกงมีพี่พนักงานพูดภาษาไทยได้ด้วย ที่ฮาคือพูดได้แค่ตัวเลข เอาไว้บอกจำนวนเงินที่เราต้องจ่าย...การเจอคนน่ารักแค่คนเดียว ทำให้ความอึนที่เจอคุณพี่ฮ่องกงเหวี่ยง ๆ (ตามสไตล์คนที่นั่น) มาทั้งวันหายไปได้หมดเลย...จริง ๆ นะ) 

Mission Completed!



แผนที่ร้านอร่อยใกล้สถานี Central


ตรง Gage street จะมี  Lan Fong Yuen 2 ร้าน ต่างกันยังไงก็ไม่รู้  ซึ่งถ้าเสิร์ชจาก Google Map จะเห็น Lan Fong Yuen ที่อยู่ด้านในซอยแค่ร้านเดียว แต่ร้านที่เราไปอยู่ปากซอยเลย (มิน่า ถึงได้หลงทิศ) ถ้าดูจากแผนที่ของ Baidu Map เทียบกัน จะเห็นร้านที่ปากซอยเป็นร้าน A ส่วนร้านในซอย คือร้าน  B



Note : พอคิดจะวางแผนที่ยวแบบ 1 ทริป 2 ประเทศก็ต้องคอยเช็กข่าวตลอด เพราะมันเป็นช่วงฤดูมรสุมของที่ฮ่องกง ถ้าเกิดพายุเข้า แพลนต่อจากนี้มันก็จะพังเป็นโดมิโน โชคดีว่าวันที่ไปอากาศแจ่มใส ต่อเครื่องไปญี่ปุ่นไม่มีปัญหา อีก 1-2 วันต่อมาคุยกับที่บ้าน เค้าบอกว่าฮ่องกงพายุเข้า ต้องปิดสนามบินไปแล้ว...ที่อุตส่าห์ 'บน' มาไม่สูญเปล่าจริง ๆ 555

Comments