จับคู่เทียบ JR TOKYO Wide Pass VS Greater Tokyo Pass พาสรถไฟเที่ยวโตเกียวและเมืองใกล้ ๆ

เดือนเมษาปีนี้ (2018) มี pass รถไฟตัวใหม่ออกมาเป็นทางเลือกสำหรับคนที่จะไปเที่ยวโตเกียวและจังหวัดใกล้ ๆ  ชื่อว่า Greater Tokyo Pass  

ช่างเป็นชื่อที่ชวนสับสนกับ JR TOKYO Wide Pass (ซึ่งเดิมชื่อว่า JR Kanto Area Pass)  แถมยิ่งดูก็ยิ่งคล้าย ๆ ...ตกลง 2 ตัวนี้ต่างกันยังไง และถ้าจะไปเที่ยวแถวโตเกียว เราจะเลือกใช้ตัวไหนดี?






JR VS non JR 

ถ้าจะแยกง่าย ๆ ให้ไม่งง JR TOKYO Wide Pass คือพาสของ JR ส่วน Greater Tokyo Pass ก็คืออะไรที่ไม่ใช่ JR (non JR) หรือรถไฟของเอกชนนั่นเอง แต่ก็นั่นแหละ จริง ๆ แล้ว JR TOKYO Wide Pass ก็นั่งรถไฟเอกชนบางสายได้เหมือนกัน (อย่าเพิ่งงงนะ)

จำนวนวัน 

ทั้ง 2 พาส ใช้เดินทางได้ 3 วันแบบต่อเนื่อง เท่ากันเป๊ะเลย

ราคา 

JR TOKYO Wide Pass ราคาเหมา ๆ 10,000 เยน ส่วน Greater Tokyo Pass ราคา 7,200 เยน



พิ้นที่ใช้งาน

ทั้งสองพาสใช้ได้ใน 7 จังหวัดในภูมิภาคคันโต ได้แก่ โตเกียว กุมมะ คานางาวะ จิบะ ไซตามะ โทจิกิ และ อิบารากิ

แต่ (มีแต่) JR TOKYO Wide Pass แอบแถมบางส่วนของจังหวัดนากาโนะ (Karuizawa) นีงาตะ (Gala Yuzawa) ยามานาชิ (Kawaguchiko) และชิสึโอกะ (Izu) มาให้ด้วย คิดว่าคงการศึกษามาแล้วละว่าเวลาคนมาโตเกียวแล้วจะชอบไปเที่ยวที่ไหนบ้าง...แต่ว่า เวลาแค่ 3 วันนั้นก็อาจจะทำให้ต้องเลือกอยู่ดีว่าจะไปเที่ยวตรงไหน ไปหมดไม่ได้ ไม่ทัน

ส่วนพื้นที่นอกโตเกียวของ Greater Tokyo Pass จะนั่งรถไฟแถบโยโกฮาม่าได้เยอะเป็นพิเศษ ใครจะเน้นเที่ยวแถวนั้น ลองเอาไปพิจารณาได้




รถที่ขึ้นได้ฟรี และไม่จำกัดจำนวนครั้ง

Wide Pass ของ JR จะนั่งรถไฟของ JR East ได้ทั้งรถไฟธรรมดา รถเร็ว รถด่วน รถด่วนพิเศษ รถชินคันเซ็น (มียกเว้นบางสายและบางขบวน) และรถไฟ monorail แถมสามารถนั่งได้ฟรีทั้งแบบระบุที่นั่ง (reserved) และไม่ระบุที่นั่ง (non reserved) ...คิดว่าจุดนี้ทำให้ราคาพาสต่างกันเพราะ Wide Pass สามารถนั่งรถไฟที่ตั๋วแพงกว่าได้นั่นเอง

และอย่างที่บอกว่านอกจากนั่งรถไฟของ JR ได้ ในเส้นทางที่ JR ไม่มีรถไฟวิ่งและคนชอบไปเที่ยว ก็มีรถไฟเอกชนมาให้มาให้นั่งแทน อย่างโอไดบะ (Rinkai Line) นิกโกะ (Tobu Railway)  คาวากุจิโกะ-ฟูจิ (Fujikyu Railway) หรือ อิซุ (Izu Kyuko Line) ฯลฯ บางสายนั่งได้หมด บางสายนั่งได้บางช่วง อันนี้ต้องดูตามเงื่อนไขในพาส

ส่วน Greater Pass นั้นครอบคลุมตั้งแต่รถไฟเอกชน รถไฟใต้ดิน รถราง (รวม 12 บริษัท) แต่นั่งได้เฉพาะรถแบบธรรมดา (local train) ถ้าอยากขึ้นรถเร็ว-รถด่วน หรือจองที่นั่ง ต้องจ่ายเพิ่มต่างหาก ที่พิเศษคือมีรถบัส (52 บริษัท) ใน 4 เมืองที่สามารถนั่งได้ฟรีด้วย คือ โตเกียว คานางาวะ ไซตามะ และจิบะ...ถ้าต้องไปที่ที่ต้องต่อรถบัสด้วย อย่างพิพิธภัณฑ์โดราเอมอนที่คาวาซากิ ก็ใช้ Greater Pass ขึ้นรถไฟเอกชน ไปต่อ Kawasaki City Bus ได้ฟรี ๆ เลย ...แต่ก็ต้องยอมรับว่าการใช้รถบัสต้องใช้สกิลมากกว่ารถไฟ ถ้าไม่จำเป็นนักท่องเที่ยวก็มักจะเลี่ยงไม่ใช้อีกแหละ

สรุปว่า...

ทั้ง 2 พาส เหมาะกับคนที่จะออกไปโตเกียวและเที่ยวใกล้ ๆ โตเกียวด้วย
เป็น 2 ทางเลือกที่ต้องดูว่าอันไหนสอดคล้องกับโปรแกรมของตัวเองมากกว่า ทั้งที่พักและที่เที่ยว (ไม่ได้อยู่ที่อันไหนเยอะกว่า ไปได้ไกลกว่า หรือราคาถูกกว่า) หลาย ๆ จุดหมายก็ใช้ได้ทั้ง 2 พาสแหละ แต่บางที่ก็ใช้ได้แค่พาสเดียว

และที่สำคัญคือต้องลองบวกดูก่อนว่าใช้พาสจะเซฟกว่าไหม เพราะในเวลาแค่  3 วันอาจไปไม่ได้เยอะแยะ (เช็กค่าเดินทางได้ ที่ Hyperdia)

...สุดท้ายแล้ว อาจพบว่าเราอาจะเหมาะกับพาสอื่น (ที่แพงกว่านี้หรือถูกกว่านี้) หรือไม่ได้ต้องการพาสเลยก็ได้


Links

JR TOKYO Wide Pass
https://www.jreast.co.jp/e/tokyowidepass/


Greater Tokyo Pass
https://greater-tokyo-pass.jp




Comments

>>Popular this week!